.....เมื่อโรงไฟฟ้าผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว จะส่งไปที่หม้อแปลงไฟฟ้าเพื่อเพิ่มแรงดันกระแสไฟฟ้าให้สูงขึ้นทำให้สามารถส่งกระแสไฟฟ้าเป็นระบบทางไกลๆได้ และก่อนจะจ่ายให้ผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องผ่านหม้อแปลงอีกครั้งหนึ่งเพื่อลดแรงดันไฟฟ้าลงให้พอดีกับลักษณะการใช้งานคือให้เหลือแรงดันกระแสไฟฟ้าเท่ากับ 220 โวลต์
1.ระบบการส่งกำลังไฟฟ้า (Transmission Line)
การส่งกำลังไฟฟ้าระบบทางไกล ๆ จะเกิดปัญหาจากการสูญเสียแรงดัน และกำลังไฟฟ้า เนื่องจากความต้านทานของสายไฟ และการเปลี่ยนกระแสไฟฟ้า
เป็นพลังงานความร้อน ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหา จึงต้องเพิ่มแรงดันไฟฟ้าให้สูงขึ้น สำหรับประเทศไทยในการส่งกำลังไฟฟ้าต้องเพิ่มแรงดันไฟฟ้าถึง 230,000 โวลต์
1. ลักษณะของสายส่งไฟฟ้าแรงสูง การส่งสายไฟแรงสูงจำเป็นจะต้องใช้สายไฟที่มีขนาดใหญ่ เพื่อให้กระแสไฟฟ้าเดินได้สะดวก ดังนั้นจึงลด
น้ำหนักของสายไฟฟ้า ด้วยการใช้วัสดุที่นำไฟฟ้าได้ดี และมีน้ำหนักเบา เช่น อะลูมิเนียม
2. เสาส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาส่งไฟฟ้าแรงสูง จะต้องมีความแข็งแรง และมีความสูงของเสาตามพิกัดขนาดแรงดันไฟฟ้านั้น ๆเสาไฟฟ้าแรงสูง
อาจจะใช้เสาไม้ หรือคอนกรีดก็ได
การส่งกำลังไฟฟ้าระบบทางไกล ๆ จะเกิดปัญหาจากการสูญเสียแรงดัน และกำลังไฟฟ้า เนื่องจากความต้านทานของสายไฟ และการเปลี่ยนกระแสไฟฟ้า
เป็นพลังงานความร้อน ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหา จึงต้องเพิ่มแรงดันไฟฟ้าให้สูงขึ้น สำหรับประเทศไทยในการส่งกำลังไฟฟ้าต้องเพิ่มแรงดันไฟฟ้าถึง 230,000 โวลต์
1. ลักษณะของสายส่งไฟฟ้าแรงสูง การส่งสายไฟแรงสูงจำเป็นจะต้องใช้สายไฟที่มีขนาดใหญ่ เพื่อให้กระแสไฟฟ้าเดินได้สะดวก ดังนั้นจึงลด
น้ำหนักของสายไฟฟ้า ด้วยการใช้วัสดุที่นำไฟฟ้าได้ดี และมีน้ำหนักเบา เช่น อะลูมิเนียม
2. เสาส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาส่งไฟฟ้าแรงสูง จะต้องมีความแข็งแรง และมีความสูงของเสาตามพิกัดขนาดแรงดันไฟฟ้านั้น ๆเสาไฟฟ้าแรงสูง
อาจจะใช้เสาไม้ หรือคอนกรีดก็ได
2.การจ่ายกระแสไฟฟ้า
2.1 ระบบจำหน่ายในระบบส่งกำลังไฟฟ้าก่อนที่จะจ่ายกระแสไฟฟ้าถึงบ้านผู้ใช้ไฟฟ้า จะต้องลดแรงดันไฟฟ้าเสียก่อน โดยผ่านสถานีย่อย (Sub-station) สายนี้เรียกว่า สายป้อน (Feeder) และสายที่ต่อจากสายป้อนนี้จะส่งต่อไปด้วยแรงดันไฟฟ้า 12 กิโลโวลต์ สายส่งระดับนี้จะกระจายไปตามถนนสายต่าง ๆ และต่อเข้า หม้อแปลงไฟฟ้าเพื่อลดแรงดัน ระบบนี้เรียกว่า ระบบจำหน่าย (Distribution System) จากนั้น หม้อแปลงไฟฟ้าจะแปลงแรงดันไฟฟ้าจาก 12,000 โวลต์ ลงเป็น 220 โวลต์ สำหรับระบบไฟฟ้าเฟสเดียว และเป็น 380 โวลต์ สำหรับระบบไฟฟ้าสามเฟส แล้วแต่ชนิดของผู้ใช้ไฟฟ้า

ไฟฟ้าในระบบจำหน่ายเป็นไฟฟ้าที่มีแรงดันกระแสไฟฟ้าสูง ก่อนที่จะนำไปสู่บ้านเรือนประชาชน จะต้องลดแรงดันลงโดยผ่านสถานีย่อยดังที่กล่าวมาแล้ว ไฟฟ้าแรงสูงนี้มีอันตรายมาก ดังนั้น จึงต้องใช้ลูกถ้วย (Pininsutator)ทำหน้าที่เป็นฉนวนไม่ให้สายไฟฟ้าแรงสูงสัมผัสส่วนของเสาลูกถ้วยที่ใช้อาจจะมีขนาด แตกต่างกันแล้วแต่ลักษณะการใช้งาน

2.2 ระบบสายบริการระบบของสายบริการ หมายถึง ระบบของสายไฟฟ้าที่ต่อจากหม้อแปลงไฟฟ้าไปยังบ้านพักอาศัยทั่วไป หม้อแปลงไฟฟ้านี้จะติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้า สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้กระแสไฟฟ้ามาก จะต้องใช้หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ จึงต้องมีสถานที่โดยเฉพาะ (Plot Form)

สายไฟฟ้าบริการที่จะส่งกระแสไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ไฟฟ้า หรือตามถนนสายต่าง ๆ มีหลายระบบดังนี้
1) ระบบไฟฟ้าเฟสเดียว 2 สาย หมายถึง ระบบที่ใช้สายไฟ 2 สาย ต่อออกจากหม้อแปลงไปยังผู้ใช้ไฟฟ้าหรือถนนสายต่าง ๆ ระบบนี้นิยมใช้ในชนบท ที่มีบ้านอยู่ห่างไกลกัน และใช้ปริมาณไฟฟ้าน้อย

2) ระบบไฟฟ้าเฟสเดียว 3 สาย ระบบนี้จะมีสายไฟฟ้า 3 สาย นิยมใช้ในท้องถิ่นที่มีผู้ใช้ไฟฟ้ามากขึ้น และใช้กับหม้อแปลงขนาดใหญ่ขึ้น

3) ระบบไฟฟ้าสามเฟส 3 สาย ไฟฟ้าระบบ 3 เฟสนี้ จะให้แรงดันกระแสไฟฟ้า 380 โวลต์ ดังนั้น จึงใช้กับอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบ 3 เฟสเท่านั้น ซึ่งมีสายไฟฟ้า 3 สาย

4) ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย นี้ ใช้ไฟฟ้าได้ทั้ง 2 ระบบ คือ ระบบเฟสเดียว 220 โวลต์ และระบบ 3 เฟส 380 โวลต์ นิยมใช้ในเมืองใหญ่ท้องถิ่นที่มีความเจริญ และใช้ไฟฟ้ามาก

ที่มา ; http://dnfe5.nfe.go.th/ilp/electric/Elec-2.htm


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น